ยาเสียสาวคืออไร? และมีผลอันตรายอย่างไรบ้าง?

เคยได้ยินคำว่า “ยาเสียสาว” มาบ้างแล้วใช่ไหมคะ? มันคือการใช้ยาผสมลงในอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อทำให้เหยื่อหญิงหมดสติและสามารถขมขื่นหรือชิงทรัพย์ได้โดยที่ไม่รู้ตัว จริงๆ แล้วเรารู้จักยาเหล่านี้อย่างไรบ้าง และมันง่ายขนาดไหนที่จะหาได้? ถ้าเรารู้ตัวว่าโดนตัวยาไปแล้วเราควรทำอย่างไร? และเราควรป้องกันตัวเองได้อย่างไร? มาดูข้อมูลกันในบทความนี้กันค่ะ

ยาเสียสาวคืออะไร?

ยาเสียสาวคือสารออกฤทธิ์ที่ใช้ในการกระตุ้นระบบประสาททำให้เกิดอารมณ์และความต้องการทางเพศสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่จะใช้ในรูปแบบของเครื่องดื่มหรืออาหารที่ผสมกับยาเสพติดหรือสารอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคที่ได้รับตัวยาไปแล้วก็จะมีความต้องการทางเพศสูงและอารมณ์แรงขึ้นได้

ผู้ใช้จะมีอาการเคลิ้มสุขคล้ายการดื่มแอลกอฮอลล์ รวมถึงมีความมึนงง ง่วงซึม หรือสลบได้ และอาจทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ การใช้ยาชนิดนี้มักทำให้ผู้ใช้รู้สึกตื่นตัว และมีความอยากเพศสัมพันธ์ เป็นที่นิยมในสถานบันเทิง และใช้ในทางการแพทย์เช่นในการวางสลับ ผ่าตัด หรือการรักษาโรค

การใช้ยานี้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยแพทย์ แต่ได้ถูกถอนออกจากบัญชียาตั้งแต่ปี 2533 แล้วในปัจจุบัน

ลักษณะของตัวยา

จะมีทั้งในรูปแบบเม็ดยา ชนิดผง และชนิดเหลวใส มีรสเค็มเล็กน้อย จึงละลายกลมกลืนกับเครื่องดื่มได้ง่าย และมักออกฤทธิ์ได้เร็วไม่เกิน 30 นาทีหลังจากรับประทานยา

ส่วนประกอบ

มักเป็นสารเคมีหรือเป็นยาที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้

• ยามิดาโซแลม (Midazolam) หรือชื่อการค้า โดมิคุม (Dormicum)
• ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam)
• ยาฟลูไนตราซีแปม (Flunitrazepam) หรือชื่อการค้า โรฮิบนอล (Rohypnol)
• สารจีเอชบี (GHB = gamma-hydroxybutyrate)
• ยาเค หรือ เคตามีน (ketamine)
• สารประกอบทั่วไปก็จะมี เช่น ทิงเจอร์ขาว, แมลงวันสเปน, บลูวิสาจ เป็นต้น
• ส่วนใหญ่เป็นยาปลุกเซ็กส์หญิงแบบน้ำ

อาการหรือสัญญาณอันตราย

อาการหรือสัญญาณที่เป็นอันตรายจากการใช้ยาได้แก่

1. มึนงงและสับสน
2. ง่วงซึมหรือช่วงระหว่างรอยืนเคลื่อนไหวได้ไม่ค่อยแข็งแรง
3. สลับสับปะรด
4. หัวใจเต้นเร็วหรือช้า
5. ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ
6. อาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
7. ประวัติการชัก
8. ผลข้างเคียงทางจิตเช่น ความรุนแรง ความหงุดหงิด หรืออารมณ์ที่ไม่สมดุล

หากพบเห็นอาการเหล่านี้หรือมีคำสั่งใดๆ ที่เป็นอันตราย ควรรีบพบแพทย์หรือสายด่วนทางการแพทย์เพื่อรับการช่วยเหลือทันที อย่างไรก็ตาม การป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพจิตและกันอาการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้จริงหรือไม่?

ตัวยามีความสามารถในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ โดยการกระตุ้นระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศ เป็นอย่างไรก็ตาม ควรระวังการใช้ยาเนื่องจากมีผลข้างเคียงที่อันตรายได้ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการผิดปกติทางจิตใจและร่างกายได้ในระยะยาว ดังนั้น ไม่แนะนำให้ใช้ยาเพื่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศในทางที่ไม่ปลอดภัยและไม่เหมาะสม

อันตรายจากยา หรือสารเคมีเหล่านี้ เมื่อนำไปใช้ในทางที่ผิด

• การใช้ยาเหล่านี้ในทางที่ผิด คือการใช้โดยไม่อยู่ในคำแนะนำของแพทย์ และเภสัชกร
• รวมถึงเป็นยาต้องห้ามที่มีการควบคุมการจำหน่ายอย่างเคร่งครัด
• ผลของยาที่ทำให้เกิดอาการมึนงง ง่วงซึม ไม่มีสติ หรือสลบไปได้
• รวมถึงยาบางตัวมีฤทธิ์คลายกังวล หรือทำให้รู้สึกเคลิ้มสุขคล้ายการดื่มแอลกอฮอล์
• ออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว ไม่เกิน 30 นาที หลังจากรับประทานยา
• สามารถละลายได้ดีในน้ำ ทำให้มีการนำยาเหล่านี้ไปละลายในเครื่องดื่มต่าง ๆ
• ให้คนดื่มไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีการผสมยาลงไป ซึ่งหากใส่ไปในเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาเหล่านี้
• มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ จึงอาจทำให้เหยื่อไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
• ยาเหล่านี้อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตหากใช้เกินขนาด เนื่องจากมีฤทธิ์การกดการหายใจ

วิธีป้องกันตัวเอง

• เมื่อทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มหรือรับประทานอาหารจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานที่ไม่น่าไว้วางใจ
• หากวางอาหาร หรือเครื่องดื่มของตนเองเอาไว้บนโต๊ะ แล้วขอตัวเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาที่โต๊ะควรเปลี่ยนแก้วเครื่องดื่มใหม่ และไม่ทานอาหารจานนั้นต่อ
• แม้ว่าจะอยู่กับเพื่อนสนิท แต่ไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้น ระมัดระวังเครื่องดื่ม และอาหารการกินเมื่อต้องทานกับคนแปลกหน้าเสมอ แม้ว่าเขาคนนั้นจะทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มในแก้วนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ใส่ยาก็ตาม
• หากรู้ตัวว่าทานยาเข้าไป ควรรีบตั้งสติหนีออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ โทรศัพท์หาคนในครอบครัว แจ้งสถานที่อยู่ปัจจุบันให้ชัดเจน และหากหาดื่มน้ำเปล่าได้ก็ควรรีบดื่มให้เร็วที่สุด จะช่วยเจือจางยาที่เพิ่งทานเข้าไปได้
• ห้ามกินเหล้าเด็จขาด เพราะเหล้าทำให้ขาดสติอยู่แล้ว ถ้าโดนยาไปอีกคือจบเลยคะ

ทิงเจอร์ขาว (แบบเกล็ด)

การนำไปใช้ส่วนใหญ่จะเป็นการผสมกันของสารอื่นๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาว ซึ่งจะเรียกว่า “ทิงเจอร์ขาว” หรือ “เกล็ดขาว” เนื่องจากยาปลุกเซ็กส์ที่ตัวนี้มีลักษณะเป็นเกล็ดขาวๆ ใสๆ

เมื่อผสมเครื่องดื่มกัน จะละลายทันทีโดยไม่มีสี กลิ่น หรือรสชาติ เมื่อรับประทานตัวยาทิงเจอร์ขาวแล้ว ไม่เกิน 20 นาที ยาจะออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการร้อนรุ่มภายใน หน้าแดง มีความต้องการทางเพศสูงและไม่สามารถยับยั้งได้ ตัวยาจะออกฤทธิ์นานประมาณ 1 ชั่วโมง

ยาไม่สามารถออกฤทธิ์ให้เกิดอาการขั้นต้นได้ในทุกคน เป็นเฉพาะบางคนเท่านั้น